ต่างชาติเที่ยวไทย หนุนเงินบาทแข็งค่าสิ้นปี 35.00 บาทต่อดอลลาร์
นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ค่าเงินบาทยังขึ้นกับปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด และสภาพเศรษฐกิจจากต่างประเทศ โดยคาดว่าใน 1 เดือนข้างหน้าเงินบาทจะอยู่ที่ 35.30-36.90 บาทต่อดอลลาร์ และจะกลับมาแข็งค่าได้จบสิ้นปีที่ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวไทยที่จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7 ล้านคนในปีนี้ และจะสร้างรายได้ ทำให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นได้
ขณะที่ส่วนต่างดอกเบี้ยนโยบายมีนัยสำคัญถ้าหากดอกเบี้ยเฟดสูงกว่าไทยและทิ้งห่างมากในทุกๆ 0.25% จะทำให้เงินบาทอ่อนค่าไปเมื่อเทียบกับดอลลาร์ 31 สตางค์ นอกจากนี้คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ โดยเว้นช่วงการประชุม กนง. ในเดือน ก.ย. และจะไปขึ้นดอกเบี้ยในเดือน พ.ย.นี้ จากปัจจุบันดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% โดยต้องติดตามตัวเลขการท่องเที่ยวและจะเห็นข้อมูลมากขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งคาดการณ์เศรษฐกิจในปีนี้คาดจะขยายตัว 2.9% แต่ถ้าจะปรับก็อาจไม่คงหรือปรับลด เนื่องจากเศรษฐกิจไตรมาส 2 ออกมาต่ำกว่าคาด
“7 เดือนที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเกือบ 3 ล้านคน ถ้าคงแรงส่งได้ จะทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า โดยค่าเงินดอลลาร์ มีผลจากเฟด เริ่มเห็นสัญญาณชัดเจนแต่มีภาวะถดถอย ซึ่งต่อไปเฟดจะปรับดอกเบี้ยชะลอลง ซึ่งในเดือน ก.ยคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ค่าเงินมีโอกาสผันผวน ประเมินว่าใน 1 เดือนเงินบาทอยู่ที่ 35.00-36.90 บาทต่อดอลลาร์ ดูว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยมากจะขึ้นมากขึ้นน้อยแค่ไหน”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายกอบสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องการเมืองไทยที่เปลี่ยนตัวนายกฯ มองว่าอาจไม่ได้กระทบมาก และน่าจะมีมุมมองเชิงบวก เพราะทุกอย่างล้วนมีกระบวนการและกลไกรองรับไว้แล้ว โดยมีการวางแผน รวมทั้งได้ผ่านการพิจารณาของงบประมาณ 66 ไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวนายกฯ ก็มีผู้รักษาการแทน ทำให้ไม่มีเรื่องสุญญากาศ ซึ่งลักษณะเป็นไปตามหลักนิติธรรม มีกลไกรองรับ มีเรื่องบริหารที่ไม่สะดุด ส่วนนโยบายการลงทุนภาครัฐนั้น ก็ไม่ต้องกังวลเพราะงบประมาณ 66 ได้ผ่านไปแล้ว สามารถเดินเครื่องต่อไปได้